วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เพชรา เชาวราษฎร์

เพชรา เชาวราษฎร์
(เกิด 19 มกราคม พ.ศ. 2486) ชื่อเล่น อี๊ด ชื่อจริงว่า เอก เชาวราษฎร์ นักแสดงภาพยนตร์เจ้าของฉายา นางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง มีผลงานแสดงประมาณ 300 เรื่อง ระหว่าง พ.ศ. 2505 ถึง 2521 บทบาทการแสดงของเธอมีความหลากหลาย บางเรื่องแสดงเป็นเจ้าหญิง บางเรื่องแสดงเป็นขอทาน บางเรื่องเป็นเด็กแก่นแก้ว นอกจากภาพยนตร์ไทยแล้วยังได้แสดงหนังจีนจากไต้หวัน เป็นภาพยนตร์กำลังภายใน

ประวัติ
วัยเด็ก
เพชราเกิดที่
จังหวัดระยอง เป็นบุตรคนที่ 4 จากพี่น้องทั้งหมด 7 คน เมื่ออายุ 15 ปี ได้เข้ามาเรียนหนังสือที่กรุงเทพ พักอาศัยอยู่กับพี่สาวและพี่เขย และช่วยงานที่ร้านเสริมสวยของน้องสาวพี่เขย เธอได้รับการชักชวนให้เข้าประกวดธิดาเมษาฮาวายประจำปีพ.ศ. 2504 จัดโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ใช้ชื่อในการประกวดว่า ปัทมา เชาวราษฎร์ ได้ตำแหน่งชนะเลิศ

เข้าสู่วงการ


เธอได้รับการชักชวนจากศิริ ศิริจินดา และดอกดิน กัญญามาลย์ ให้แสดงภาพยนตร์เรื่อง บันทึกรักพิมพ์ฉวี เมื่อ พ.ศ. 2505 เป็นเรื่องแรก ขณะอายุ 19 ปี แสดงคู่กับ มิตร ชัยบัญชา โดยดอกดิน กัญญามาลย์ เป็นผู้ตั้งชื่อว่า เพชรา ให้
เพชรา เชาวราษฎร์ แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากภาพยนตร์เรื่องที่สอง เรื่อง
ดอกแก้ว ตามด้วย หนึ่งในทรวง อ้อมอกสวรรค์ และได้แสดงคู่กับมิตร ชัยบัญชา รับบทคู่รักในภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เป็นที่ชื่นชอบของแฟนภาพยนตร์ เรียกว่า คู่ขวัญ มิตร-เพชรา ในยุคที่เธอโด่งดังมาก ๆ แต่ละเดือนมีคิวถ่ายหนังประมาณ 12-18 เรื่อง แต่ละวันต้องถ่ายทำภาพยนตร์วันละ 3-4 เรื่อง ในปี พ.ศ. 2508 เพชราเข้ารับพระราชทานรางวัลตุ๊กตาทอง จากพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของเธอ เจ้าตัวเคยบอกไว้ว่า... “เป็นความประทับใจ เป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต และจะไม่มีวันลืม ตราบที่ยังมีลมหายใจ”
คู่ขวัญ มิตร-เพชรา
หลังจากมิตร ชัยบัญชาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในการถ่ายภาพยนตร์เรื่อง
อินทรีทอง เพชราก็ยังรับบทนางเอกภาพยนตร์ต่อเนื่องมาอีกหลายปี คู่กับ สมบัติ เมทะนี ไชยา สุริยัน ลือชัย นฤนาท และพระเอกใหม่ ครรชิต ขวัญประชา นาท ภูวนัย ยอดชาย เมฆสุวรรณ กรุง ศรีวิไล

โลกแห่งความมืด
ประมาณ พ.ศ. 2515 เธอเริ่มมีปัญหาเรื่องสายตา เนื่องจากในการถ่ายภาพยนตร์ต้องใช้แสงไฟสว่างจ้า ใช้เวลารักษาอยู่หลายปี จนกระทั่งตาบอดสนิททั้งสองข้าง เมื่อ พ.ศ. 2521 ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่เธอแสดง คือเรื่อง ไอ้ขุนทอง ซึ่งเธออำนวยการสร้าง และแสดงเป็นแม่ของพระเอก รับบทโดยสรพงศ์ ชาตรี สาเหตุของการตาบอดของเพชรา มาจากการไม่ได้พักสายตา ไม่ว่าจะเป็นบทบาทที่ต้องร้องไห้บ่อย การขับรถไปทำงานเอง ประกอบกับสมัยนั้น ถ่ายหนังต้องใช้ไฟแรง หรือใช้รีเฟล็กซ์เยอะ ช่วงหลังๆที่ถ่ายหนังเรื่อง “ไทยใหญ่” เมื่อปี 2513 เริ่มแสบตา แต่เธอก็ยังขับรถไปถ่ายหนังต่างจังหวัดเอง และอดทนแสดงภาพยนตร์จนถึงเรื่องสุดท้ายคือ “ไอ้ขุนทอง” เข้าฉายในปี 2520 เมื่อดวงตาเริ่มมีปัญหา จึงไปหาหมอ แต่ว่าไม่ได้ไปตามนัดโดยสม่ำเสมอ เพราะต้องไปถ่ายหนัง บางวันก็อยู่ต่างจังหวัด พออาการเริ่มหนักขึ้น ถึงขั้นขับรถปีนเกาะกลางถนนหลายครั้ง ช่วงที่อาการหนักมากๆ ก็พยายามรักษาทุกวิถีทาง แพ้ยาจนตัวบวม จากน้ำหนัก 47-48 กิโลกรัม จนมาหนัก 60 กว่ากิโลกรัม ต้องซื้อเสื้อผ้าคนท้องมาใส่ ผมร่วงหมดศีรษะ ฝ้าขึ้นดำไปทั้งหน้าทั้งตัว เมื่อตัวบวมมากๆ ก็หายใจไม่ออก กลืนน้ำก็ไม่ได้ ต้องเข้าไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล การทำงานของไตหยุด พิษยาจึงคั่งค้างทำให้ตัวบวม ต้องรอให้พิษยาลดลง จากที่เคยสวมแว่นดำและนั่งแท็กซี่ไปไหนมาไหนได้เอง ตอนหลังก็มองไม่เห็น ออกไปไหนคนเดียวไม่ได้ดวงตาของเพชรา ได้ปิดสนิทลง ในกลางปี 2524 หลังจากนั้น เธอก็ไม่ปรากฏตัวที่ไหนอีกเลย

คืนวงการ
หลังจากหยุดงานแสดงเพื่อรักษาสุขภาพมาหลายปี เธอทำงานเป็นนักจัดรายการวิทยุคลื่นลูกทุ่ง เอฟเอ็ม ตั้งแต่ พ.ศ. 2544-2548 ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2552 เธอให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ครั้งแรกในรอบ 30 ปี ในรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย ซึ่งดำเนินรายการโดย วุฒิธร มิลินทจินดา หรือวู้ดดี้ โดยเข้าไปคุยในบ้านของเธอเอง พร้อมพูดเปิดใจและบอกสาเหตุที่เก็บตัวเงียบ ไม่ยอมออกรายการโทรทัศน์ แต่ยังคงไม่เปิดเผยหน้าตา เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552 เพชราได้รับงานโฆษณาลิปสติกมิสทีน จากการเข้าติดต่อการเจรจาถึง 9 ครั้ง จนครั้งสุดท้ายที่สำเร็จ โดยรายได้จากงานครั้งนี้เพชราจะบริจาคให้องค์กรการกุศลทั้งหมด ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับมูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย โฆษณาประชาสัมพันธ์ได้แพร่ภาพเมื่อประมาณกลางเดือนกันยายน โดยตัวแรกที่นำเสนอภาพของเพชราในอดีต และตัวที่สองมีพรีเซนเตอร์ของมิสทีนคนก่อน ๆ มาพูดถึงจุดเด่นของโฆษณาตัวนี้ โฆษณาชุดนี้ถ่ายทำเมื่อวันที่ 16-17 กันยายน และเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552 โดยผู้บรรยายโฆษณาคือ นิรุตต์ ศิริจรรยา และผู้ขับร้องเพลง หยาดเพชร เพลงประกอบโฆษณาชิ้นนี้คือ ศุกลวัฒน์ คณารศ นับเป็นโฆษณาทางโทรทัศน์ตัวแรกในรอบกว่า 30 ปีที่เธอยอมให้มีการถ่ายภาพใบหน้าของเธออย่างชัดเจน

ชีวิตส่วนตัว
เพชราเป็นคนจังหวัดระยอง คุณพ่อมีเชื้อสายจีน มีก๋งมาจากเมืองจีนและแม่เป็นคนไทย ครอบครัวเธอเป็นครอบครัวที่ทำมาค้าขายและทำสวนไร่ พ่อแม่มีลูก 7 คน เธอเป็นลูกคนที่ 4 ด้านชีวิตส่วนตัว เพชรา สมรสกับ ชรินทร์ นันทนาคร ศิลปินแห่งชาติ ปี 2541 สาขาศิลปะการแสดง นักร้องเพลงไทยสากล เพชราและชรินทร์ร่วมงานครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง แพนน้อย จนกระทั่งได้แสดงหนังเรื่อง แผ่นดินแม่ ปี พ.ศ. 2518 จึงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งคู่แต่งงานกันเงียบ ๆ เลี้ยงเพื่อนร่วมวงการเพียงไม่กี่คน[8] แต่ก่อนหน้านั้นเธอเคยมีคู่หมั้น เป็นลูกเศรษฐีเจ้าของอู่ต่อเรือประมง เมื่อตอนที่อายุ 15 ปี โดยผู้ใหญ่จะตัดสินใจรับหมั้น แต่ด้วยความที่อายุน้อยจึงบ่ายเบี่ยงไปตลอดเกือบ 2 ปี แล้วงานวิวาห์จึงเกิดขึ้น สุดท้าย เพชรา ได้หนีไปในวันเข้าพิธีแต่งงาน

ผลงาน
บันทึกรักพิมพ์ฉวี (2505) อ้อมอกสวรรค์ (2505) ดอกหญ้า (2505) ม่านบังตา (2505) ดอกแก้ว (2505) แพนน้อย (2506) เหยี่ยวดำ (2506) คมพยาบาท (2506) รวงแก้ว (2506) ช่อเพชร (2506) ใจเพชร (2506) อวสานอินทรีย์แดง (2506) หนึ่งในทรวง (2506) ฝนแรก (2506) เก้ามหากาฬ (2507) มังกรคนอง (2507) สมิงบ้านไร่ (2507) ภูตพิศวาส (2507) พนาสวรรค์ (2507) ร้อยป่า (2507) พันธุ์ลูกหม้อ (2507) จ้าวพยัคฆ์ (2507) นกน้อย (2507) สิงห์ล่าสิงห์ (2507) เทพบุตร 12 คน (2507) พรายดำ (2507) ตำหนักเพชร (2507) เลิศชาย (2507) หัวใจเถื่อน (2507) เลือดนอกอก (2508) ชาติเจ้าพระยา (2508) 5 พยัคฆ์ร้าย (2508) มังกรดำ (2508) จอมใจ (2508) หมอกสวาท (2508) แผ่นดินสวรรค์ (2508) ทาสผยอง (2508) เทพบุตรนักเลง (2508) ลมหวน (2508) สุภาพบุรุษนักเลง (2508) ขวัญชีวิต (2508) วังเสือ (2508) เสือข้ามแดน (2508) วีรบุรุษเมืองใต้ (2508) ถิ่นผู้ดี (2508) น้ำเพชร (2508) ชื่นชีวัน (2508) น้องนุช (2508) อ้อมอกดิน (2508) ฉัตรดาว (2508) นกขมิ้น (2508) น้ำผึ้งป่า (2508) เพชรน้ำผึ้ง (2508) ใจฟ้า (2508) ลูกผู้ชายชื่อไอ้แผน (2508) อรัญญิก (2508) ชบาไพร (2508) ชาติฉกรรจ์ (2508) หยกแก้ว (2508) พระรถ-เมรี (2508) ลูกของแม่ (2508) เงิน เงิน เงิน (2508) พยัคฆ์ร้าย (2508) หมอกสวาท (2508) แม่ยอดชีวิต (2509) เสือเหลือง (2509) ชุมทางรัก (2509) หงส์เหิร (2509) โสนน้อยเรือนงาม (2509) น้อยใจยา (2509) พระอภัยมณี (2509) .... นางผีเสื้อสมุทร ลมหนาว (2509) ชุมทางหาดใหญ่ (2509) จอมประจัญบาน (2509) เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก (2509) สายเลือดกตัญญู (2509) พิษพยศ (2509) เพชรตัดเพชร (2509) วังไพร (2509) แสงเทียน (2509) เสือสั่งถ้ำ (2509) น้ำค้าง (2509) นกแก้ว (2509) นกยูง (2509) จามเทวี (2509) นางนกป่า (2509) ปีศาจดำ (2509) เพชรสีเลือด (2509) เปลวสุริยา (2509) มือนาง (2509) นกเอี้ยง (2509) เหยี่ยวสังหาร (2509) เกิดเป็นหงส์ (2509) ตัวต่อตัว (2509) งูผี (2509) มือปืนสิบทิศ (2509) 4 สมิง (2509) สามเกลอเจอล่องหน (2509) ดรุณีสีเลือด (2509) หงส์เพิร-สมบัติ (2509) น้อยใจยา (2509) โสนน้อยเรือนงาม (2509) จามเทวี (2509) ตัวต่อตัว (2509) ชาติกระทิง (2509) แมวเหมียว (2510) ใกล้รุ่ง (2510) ภูพานอย่าร้องไห้ (2510) มดแดง (2510) 7 พระกาฬ (2510) นางนวล (2510) 5 พยัคฆ์สาว (2510) โป๊ยเซียน (2510) ตำหนักแดง (2510) แสนรัก (2510) สาวจ้าวสมิง (2510) โนรี (2510) ฟ้าเพียงดิน (2510) ใต้เงาปืน (2510) ไฟเสน่หา (2510) ไทรโศก (2510) เทพบุตรปืนทอง (2510) ปิ่นรัก (2510) สุดแผ่นดิน (2510) ตั๊กแตน (2510) สายเปล (2510) มนุษย์ทองคำ (2510) ผึ้งหลวง (2510) สิงห์หนุ่ม (2510) ปูจ๋า (2510) ทะเลเงิน (2510) เหนือเกล้า (2510) นางพรายตานี (2510) 9 เสือ (2510) ใจนาง (2510) เหนือนักเลง (2510) แหลมหัก (2510) จันทร์เจ้า (2510) จุฬาตรีคูณ (2510) เทพธิดาบ้านไร่ (2510) แก้วกาหลง (2510) ยอดแก่น (2511) สิงห์ล้างสิงห์ (2511) กบเต้น (2511) ขวัญเรือน (2511) จั๊กจั่น (2511) สมิงดง (2511) พระลอ (2511) แสนสงสาร(2511)สัญชาติชาย (2511) แท็กซี่ (2511) รักเอย (2511) เฟื่องฟ้า (2511) ระฆังผี (2511) มรกตแดง (2511) ยอดชีวิต (2511) สองฟากฟ้า (2511) สกุลกา (2511) ชาตินักสู้ (2511) ลูกแมว (2511) ดอกอ้อ (2511) เงินจ๋าเงิน (2511) พรายพิศวาส (2511) เพชรตะวัน (2511) ดอกบัว (2511) ไอ้หนึ่ง (2511) กำพร้า (2511) แมวไทย (2511) แสนงอน (2511) น้ำอ้อย (2511) เลือดอาชาไนย (2511) 16 ปีแห่งความหลัง (2511) ลูกชาติเสือ (2511) ทรามวัยใจเพชร (2511) ไก่แก้ว (2512) เพชรแท้ (2512) เศรษฐีข้างถนน (2512) สมิงจ้าวท่า (2512) ลมเหนือ (2512) รัก-ยม (2512) ปีศาจเสน่หา (2512) .... การะเกด ลูกเขย (2512) ไอ้เปีย (2512) ลูกปลา (2512) จอมคน (2512) อภินิหารอาจารย์ทอง (2512) ยอดคนจริง (2512) จอมพล (2512) ปลาไหลทอง (2512) แม่ค้า (2512) วิมานไฟ (2512) ไพรรัก (2512) ขวัญหล้า (2512) ยอดคนจริง (2512) สอยดาวสาวเดือน (2512) ชาติลำชี (2512) ปราสาททราย (2512) กามเทพลวง (2512) ลอยกระทง (2512) เทพบุตรสลาตัน (2512) ความรักเจ้าขา (2512) สวรรค์วันเพ็ญ (2512) รอยพราน (2512) ไอ้เปีย (2512) คฤหาสน์รัก (2512) ผีเสื้อ (2512) หลั่งเลือดแดนสิงห์ (2512) เขี้ยวพยัคฆ์ (2512) อภินิหารอาจารย์ทอง (2512) ไทยน้อย (2512) เด็กวัด (2512) ลูกสาวพระอาทิตย์ (2512) หาดใหญ่ใจสู้ (2512) เพลงรักแม่น้ำแคว (2513) รักนิรันดร์ (2513)ไทยใหญ่ (2513) ขุนทาส (2513) ฝนใต้ (2513) หวานใจ (2513) ไอ้สู้ (2513) ท่าจีน (2513) เงินจางนางจร (2513) มนต์รักลูกทุ่ง (2513) เรือมนุษย์ (2513) ไอ้เบี้ยว (2513) สวรรค์เบี่ยง (2513) วิญญาณดอกประดู่ (2513) ลูกหนี้ทีเด็ด (2513) ม้ามืด (2513) จอมโจรมเหศวร (2513) เจ้าแม่สไบทอง (2513) กำแพงเงินตรา (2513) 7 สิงห์คืนถิ่น (2513) ชุมทางนักเลง (2513) ลำพู (2513) รักเธอเสมอ (2513) อัศวินดาบกายสิทธิ์ (2513) อินทรีทอง (2513) บ้านสาวโสด (2513) เสน่ห์ลูกทุ่ง (2513) ฝนเหนือ (2513) ไอ้หนุ่มบ้านนา (2514) นักบุญทรงกลด (2514) ดวงใจสวรรค์ (2514) ไอ้ทุย (2514) เสือขาว (2514) ดาบคู่สะท้านโลกันต์ (2514) อรุณรุ่งฟ้า (2514) ยั่วรัก (2514) เหนือพญายม (2514) เขยตีนโต (2514) คีรีบูน (2514) มนต์รักป่าซาง (2514) ทะโมนไพร (2514) เจ้าจอม (2514) เจ้าสาวขี้คุก (2514) สื่อกามเทพ (2514) วิมานสีทอง (2514) ยมบาลเจ้าขา (2514) ลำดวน (2514) สุภาพบุรุษเสือใบ (2514) อีรวง (2514) พุดตาล (2514) ธารรักไทรโยค (2514) คนใจบอด (2514) ลานพัยพญ้า (2514) ไก่นา (2514) แม่ศรีไพร (2514) มนต์รักจากใจ (2514) แม่นม (2514) ยอดต่อยอด (2514) ทุ่งเศรษฐี (2514) .... ขวัญดาว รักร้อน (2514) ลูกยอด (2514) ลมรักทะเลใต้ (2514) พิษผยอง (2514) รักจ๋ารัก (2514) เชิงชายชาญ (2514) มดตะนอย (2514) สุดที่รัก (2514) แก้วขนเหล็ก (2514) เลือดแม่ (2515) หัวใจปรารถนา (2515) เชียงตุง (2515) กว๊านพะเยา (2515) ระเริงชล (2515) มนต์กากี (2515) พ่อปลาไหล (2515) .... จันทนี กลิ่นร่ำ (2515) น้ำผึ้งพระจันทร์ (2515) ลานสาวกอด (2515) วิวาห์ลูกทุ่ง (2515) จันทร์แรม (2515) มนต์รักดอกคำใต้ (2515) .... คำใต้ หัวใจป่า (2515) สุดสายป่าน (2515) แสนทนง (2515) รักคืนเรือน (2515) หาดทรายแก้ว (2515) กล้าสิบทิศ (2515) คุ้มนางฟ้า (2515) เจ้าสาวเรือพ่วง (2516) ไอ้แดง (2516) กุหลาบไฟ (2516) สายฝน (2516) ไม้ป่า (2516) พยัคฆ์พันลาย (2516) เตะฝุ่น (2516) ดอนโขมด (2516) เจ้าปลิวสิงห์สุพรรณ (2516) หัวใจหิน (2516) อีสาน (2517) แว่วเสียงลมรัก (2517) กังหันสวาท (2517) ดอกคูนเสียงแคน (2517) แผ่นดินแม่ (2518) ชะตาชีวิต (2519) แนไม่อยากเป็นคุณนาย (2519) ลูกเจ้าพระยา (2520) ไอ้ขุนทอง (2520)

รางวัล
-รางวัลพระสุรัสวดี ในเรื่อง นกน้อย 2508
-รางวัลคู่ขวัญดาราทอง จากเรื่อง เงิน เงิน เงิน 2508
-รางวัลสรรพศาตรศุภกิจ 2544
-รางวัลกินรีทองคำบุคคลเกียรติยศ
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ ครั้งที่ 7 30 กันยายน 2552 (ชรินทร์ นันทนาคร รับแทน)

my profile

เพื่อนๆ........วันนี้เรียนแลปกัน
วันลอยกระทง 2551

เพื่อนของเรา


วันรับเสื้อปฏิบัติการ



สมุนไพรไทยกับโรคเบาหวาน

สมุนไพรไทยกับโรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติเกิดจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือประสิทธิภาพของอินซูลินลดลง เนื่องจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอยู่เป็นเวลานาน จะเกิดโรคแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่างๆ เช่น ตา ไต และระบบประสาทอินซูลินเป็นฮอร์โมนที่สำคัญตัวหนึ่งของร่างกาย สร้าง และหลั่งจากเบตาเซลล์ของตับอ่อน ทำหน้าที่เป็นตัวพาน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆของร่างกายเพื่อเผาผลาญเป็นพลังงานในการดำรงชีวิต ถ้าขาดอินซูลิน หรือการออกฤทธิ์ไม่ดี ร่างกายจะใช้น้ำตาลไม่ได้ จึงทำให้น้ำตาลในเลือดสูง มีอาการต่างๆของโรคเบาหวานนอกจากมีความผิดปกติของการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตแล้ว ยังมีความผิดปกติอื่นๆอีก เช่น มีการสลายของสารไขมัน และโปรตีนร่วมด้วย
สาเหตุ เกิดจากร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลกลูโคสเป็นพลังงานได้ จึงนำไขมันมามาใช้แทนเกิดเป็นสารคีโตน ซึ่งการพบคีโตนในเลือดแสดงว่า 1.อินซูลินไม่พอ อาจจะเกิดจากลืมฉีด หรือภาวะที่ต้องการอินซูลินเพิ่ม เช่นเวลาเจ็บป่วย เมื่ออินซูลินไม่พอร่างกายจึงเผาไขมันเป็นพลังงาน 2.ได้อาหารไม่พอ เช่นเวลาเจ็บป่วยรับประทานอาหารไม่พอ 3.ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป ร่างกายก็เผาไขมันมาใช้เป็นพลังงาน
อาการ
-คลื่นไส้ อาเจียนมาก
-ปวดท้อง
-คอแห้ง
-กระหายน้ำ
-ปัสสาวะมาก
-ลมหายใจมีกลิ่นหวานของอะซีโตน และคีโตน
-หายใจหอบลึก ตรวจพบคีโตน(น้ำตาล)ในปัสสาวะ
การควบคุมโรคเบาหวาน
· การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ โดยการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ลดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล?? ลดอาหารที่มีไขมันมาก หลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสหวาน เช่น ทุเรียน ลำไย ละมุด เงาะ ฯลฯ ควรรับประทานผักและผลไม้เพิ่มขึ้น
· ตรวจร่างกายเป็นประจำ และรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
· ป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดจากโรคเบาหวาน
· ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
· ดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย ระมัดระวังไม่ให้ร่างกายเกิดแผล เพราะจะทำให้แผลหายช้า


สมุนไพรที่สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
มะระ
ส่วนใหญ่จะใช้มะระขี้นก โดยใช้ผลดิบแก่ที่ยังไม่สุก และยอดอ่อน ใช้เนื้อรับประทานเป็นผักจิ้ม ผลของมะระนำมาลวก รับประทานกับน้ำพริก ส่วนผลมะระจีนใช้ประกอบอาหาร เช่นแกงจืด ผัด


สรรพคุณทางยา ตามตำรายาไทย เป็นยารสขม ช่วยเจริญอาหาร น้ำคั้นจากผลช่วยแก้ไข้ และใช้อมแก้ปากเปื่อย ผลของมะระจีนที่โตเต็มที่แล้วนำมาหั่นตากแห้งชงกับน้ำร้อน ใช้ดื่มแทนน้ำชา แก้โรคเบาหวาน ใบสดของมะระขี้นกหั่นชงกับน้ำร้อนใช้ถ่ายพยาธิเข็มหมุดและนอกจากนั้นในผลและใบของมะระยังมีสารที่มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้แก่ พี-อินซูลิน (p-insulin) ซึ่งเป็นสารโปรตีน และคาแรนติน(charantin) ซึ่งเป็นสารผสมของสเตียรอยด์ กลัยโคไซด์ 2 ชนิด

ตำลึง ตำลึงเป็นผักพื้นบ้าน ที่มีคุณค่าทางด้านอาหารสูง :ประกอบด้วยวิตามิน 10 แร่ธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินอื่น ๆ อีกมาก ยอดตำลึงใช้ปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่นแกงจืด ผัดผัก ลวกจิ้ม น้ำพริก แกงเลียง ใส่ก๋วยเตี๋ยว นอกจากจะมีประโยชน์และคุณค่าทางอาหารสูง ในตำลึงยังพบกรดอะมิโน หลายชนิดในผลตำลึงพบสารคิวเดอร์ บิตาขึ้น บี (cucurbitacinB)
สรรพคุณทางยา ใบและเถาตำลึงมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้ โดยมีการทดลองใช้น้ำคั้นจากใบและเถาตำลึง น้ำคั้นจากผลดิบ และสารสกัดจากเถาตำลึงด้วยแอลกอฮอล์ พบว่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดของกระต่ายที่เป็นเบาหวานได้


เตยหอม ใบเตยมีสีเขียว น้ำคั้นจากใบเตย มีกลิ่นหอมนำมาใช้แต่งสีขนม แต่งกลิ่นอาหาร นอกจากนี้ยังนิยมนำมาเป็นเครื่องดื่ม น้ำที่ได้จากใบเตยมีสารสำคัญหลายชนิด เช่น ไลนาลิลอะซีเตท (Linalyl acetate),เบนซิลอะซีเตท (benzyl acetate), ไลนาโลออล(Linalool), และเจอรานิออล (geraniol) และมีสารหอมคูมาริน(Coumarin) และเอททิลวานิลลิน(ethyl vanilin)


สรรพคุณทางยา ในตำรายาไทย ใช้ใบเตยสดเป็นยาบำรุงหัวใจ ให้ชุมชื่นช่วยลดอาการกระหายน้ำ รากใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ใช้รักษาเบาหวาน น้ำต้มรากเตยสามารถลดน้ำตาลในเลือดของสัตว์ทดลองได้


***ข้อควรระวัง การนำสมุนไพรมาใช้เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดใน ผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องไปตรวจร่างกายเป็นประจำและต่อเนื่อง เพื่อดูระดับน้ำตาลในเลือด และเพื่อความปลอดภัย เพราะบางครั้งอาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำกว่าปกติเป็นอันตราย

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

ลดภาวะโลกร้อน

10 วิธีเพื่อลดภาวะโลกร้อน


1. ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นจากเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น แอร์ เครื่องปรับอากาศ พัดลลม หากเป็นไปได้ ใช้วิธี เปิดหน้าต่าง ซึ่งบางช่วงที่อากาศดีๆ สามารถทำได้ เช่นหลังฝนตก หรือช่วงอากาศเย็น เป็นการลดค่าไฟ และ ลดความร้อน เนื่องจากหลักการทำความเย็นนั้นคือ การถ่ายเทความร้อนออก ดังนั้นเวลาเราใช้แอร์ จะเกิดปริมาณความร้อนบริเวณหลังเครื่องระบายความร้อน


2. เลือกใช้ระบบขนส่งมวลชน ในกรณีที่สามารถทำได้ ได้แก่ รถไฟฟ้า รถตู้ รถเมลล์เนื่องจากพาหนะ แต่ละคัน จะเกิดการเผาผลาญเชื้อเพลิง ซึ่งจะเกิดความร้อน และ ก็ซคาร์บอนไดออกไซด์ ดังนั้นเมื่อลดปริมาณจำนวนรถ ก็จะลดจำนวนการเผาไหม้บนท้องถนน ในแต่ละวันลงได้


3. เวลาเดินเข้าห้างสรรพสินค้า หากมีใครเปิดประตูทิ้งไว้ ให้ช่วยปิดด้วยเนื่องจากห้างสรรพสินค้าแต่ละห้างนั้น มีพื้นที่มาก กว่าจะทำให้เกิดความเย็นได้ ก็จะก่อให้เกิดเกิดความร้อนปริมาณมาก ดังนั้นเมื่อมีคนเปิดประตูทิ้งไว้ แอร์ก็จะยิ่งทำงานมากขึ้นเพื่อให้ได้ความเย็นตามที่ระบุไว้ในเครื่อง ซึ่งประตูที่เปิดอยู่จะนำความร้อนมาสู่ตัวห้างเครื่องก็จะทำงานวนอยู่อย่างนั้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดความร้อนอีกปริมาณมากต่อสภาพภายนอก
4. พยายามรับประทานอาหารให้หมด เศษอาหารที่เหลือทิ้งไว้จะก่อให้เกิดก๊าซมีเทนซึ่งก่อให้เกิดปริมาณความร้อนต่อโลก เมื่อหลายคนรวมๆกันก็เป็นปริมาณความร้อนที่มาก


5. ช่วยกันปลูกต้นไม้ เพราะต้นไม้จะคายความชุ่มชื้นให้กับโลก และ ช่วยดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุภาวะเรีอนกระจก


6. การชวนกันออกไปเที่ยวธรรมชาติภายนอก ก็ช่วยลดการใช้ปริมาณไฟฟ้าได้


7. เวลาซื้อของพยายามไม่รับภาชนะที่เป็นโฟม หรือกรณีที่เป็นพลาสติก เช่นขวดน้ำพยายามนำกลับมาใช้อีก เนื่องจากพลาสติกเหล่านี้ทำการย่อยสลายยาก ต้องใช้ปริมาณความร้อน เหมือนกับตอนที่ผลิตมันมา ซึ่งจะก่อให้เกิดความร้อนกับโลกของเราเราสามารถนำกลับมาใช้เป็นภาชนะใส่น้ำแทนกระติกน้ำได้ หรือใช้ปลูกต้นไม้ก็ได้


8. ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ที่เคี้ยวเอื้อง เนื่องจากสัตว์เหล่านี้ อุจจาระจะปล่อยก๊าซมีเทนอออกมา ดังนี้นอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ประเภทนี้ เมื่อมีจำนวนมากก็จะก่อให้เกิดความร้อนกับโลกเรามาก


9. ใช้กระดาษด้วยความประหยัด กระดาษแต่ละแผ่น ทำมาจากการตัดต้นไม้ ซึ่งเป็นเสมือนปราการสำคัญของโลกเรา ดังน้นการใช้กระดาษแต่ละแผ่นควรใช้ให้ประหยัดทั้งด้านหน้าหลัง ใช้เสร็จควรนำมาเป็นวัสดุรอง หรือ นำมาเช็ดกระจกก็ได้ นอกจากนี้การนำกระดาษไปเผาก็จะเกิดความร้อนต่อโลกเราเช่นกัน


10. ไม่สนับสนุนกิจการใดๆ ที่สิ้นเปลืองทรัพยากรของโลกเรา และควรสนับสนุนกิจการที่มีการคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม




























Mahasarakham University

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีศูนย์กลางการบริหารงานตั้งอยู่ที่ ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม มีพื้นที่ประมาณ 1,300 ไร่ ที่ตั้งเดิม ซึ่งตั้งอยู่ที่ 269 ถนนนครสวรรค์ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม บนพื้นที่ 197 ไร่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีกำเนิดมาจากวิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2511 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะขยายการศึกษาชั้นสูงไปสู่ภูมิภาค ต่อมาได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม เมื่อปีพุทธศักราช 2517 และได้แยกตัวเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศภายใต้ชื่อ "มหาวิทยาลัยมหาสารคาม" เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2537 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติ ของมหาวิทยาลัย ซึ่งได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 111 ตอนที่ 54 ก นับเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งที่ 22 ของ ประเทศไทย


ตราสัญลักษณ์ คือ ตราโรจนากร ซึ่งมีความหมายว่า ดวงตาแห่งความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งมีองค์ประกอบเป็นรูปใบเสมา
ภายในมีภาพสัญลักษณ์ขององค์พระธาตุนาดูน ด้านล่างเป็นสุริยรังสีที่แผ่ขึ้นจาก
ผ้าลายขิดซึ่งอยู่เหนือคำขวัญภาษาบาลี "พหูนํ ปณฺฑิโต ชีเว" หมายความว่า ผู้มีปัญญาพึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน
ใบเสมา หมายถึง ภูมิปัญญา
องค์พระธาตุนาดูน หมายถึง คุณธรรมความดี
สุริยรังสี หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง
ลายขิด หมายถึง ภูมิปัญญาและมรดกทางวัฒนธรรมแห่งอีสาน
ความหมายโดยรวม คือ ความเจริญรุ่งเรืองอันเป็นผลจากความรู้และคุณธรรม ผสมผสานกับภูมิปัญญาแห่งท้องถิ่นอีสาน







คณะแพทยศาสตร์(เขตพื้นที่ในเมือง)






ตึกบรม





อาคารเรียน


สีประจำมหาวิทยาลัย คือ สีเหลือง-เทา
สีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง ความดีงาม ความอุดมสมบูรณ์
สีเทา หมายถึง ความคิด หรือ ปัญญา
สีเหลือง-เทา หมายถึง การมีปัญญาและความคิดที่ดีงาม อันนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง

ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ต้นราชพฤกษ์





ดาราที่ชื่นชอบ


น.ส. พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์ มีชื่อเล่นว่า "แก้มบุ๋ม"
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-สกุล : พิมพ์นิภา จิตติธีรโรจน์ ชื่อเล่น : แก้มบุ๋ม วันเกิด : 29 พ.ย. 31 อายุ : 20 ปี ส่วนสูง : 170 ซม. น้ำหนัก : 47 กก.
การศึกษา
ระดับมัธยมศึกษา : รร.เตรียมอุดมน้อมเกล้า ระดับอุดมศึกษา : ม.กรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ ปี 1
ผลงานแสดงที่ผ่านมา - ดวงใจและสายน้ำ รับบทเป็น มะนาวหวาน - เกราะกายสิทธิ์ รับบทเป็น อันธิกา - คู่ก๊วนป่วนเมษา
รางวัลที่ได้รับ
- มิสมอเตอร์โชว์ 2008












































วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

มารู้จักสมุนไพรประจำบ้านกัน
















กะเพรา
สรรพคุณ ใบ แก้ปวดท้อง แก้จุกเสียดแก้คลื่นเหี่ยนอาเจียน
ขับลม สามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหาร










หอมแดง
สรรพคุณ ขับลม แก้ไข้หวัดใหญ่ แก้การอักเสบ แก้อาการบวมน้ำ แก้อาเจียนเป็นเลือด






กล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้าใช้ทำยาได้ทั้งดิบ และสุก มีประโยชน์มากมายมหาศาล อย่างเช่น กล้วยดิบมีสารฝาดสมาน (Astringent) จึงช่วยในการสมานรักษาอาการท้องเสียที่ไม่รุนแรงได้ เป็นการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังชวยป้องกันผนังกระเพาะลำไส้ไม่ให้เชื้อโรคและอาหารที่มีรสเผ็ดจัด เช่น พริก เข้าไปทำลายผนังกระเพาะ ลำไส้ โดยกินครั้งละครึ่งผลหรือ 1 ผล อาการท้องเสียจะทุเลาลง และยังช่วยรักษาโรคกระเพาะได้อีกด้วย

กระชาย ตามตำราถือว่ากระชายเป็นยาอายุวัฒนะชั้นหนึ่ง เป็นยาเจริญอาหารและบำรุงธาตุทำให้โลหิตหมุนเวียนดีขึ้น ผิวพรรณผุดผ่อง สดใส ชะลอความแก่ แก้ใจสั่น แก้วิงเวียน แน่นหน้าอก แก้แผลในปาก แก้ฝีอักเสบ แก้กลากเกลื้อน

ผู้ติดตาม

เกี่ยวกับฉัน